รักประชาชน รักษ์สิ่งแวดล้อม
นายศุภพงษ์ กฤษณพันธุ์
ผู้อำนวยการเขตทุ่งครุ
เปิดศักราชใหม่ปีฉลูทอง นับเป็นความโชคดีของชาวทุ่งครุที่มีผู้อำนวยการเขตคนใหม่ เปี่ยมประสบการณ์ทั้งงานบริหารและทั้งงานภาคปฏิบัติ นายศุภพงษ์ กฤษณพันธุ์ผู้อำนวยการเขตทุ่งครุ ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งมาหมาดๆ เมื่อไม่นานมานี้ และถือเป็นฤกษ์ดีที่เราจะได้ทำความรู้จักรวมทั้งทราบถึงนโยบายที่ท่านได้วางแผนงานเอาไว้เพื่อเป็นของขวัญสำหรับชาวทุ่งครุ
“เขตทุ่งครุ เป็นเขตด้านทิศใต้สุดของกรุงเทพมหานครติดกับอำเภอสมุทรปราการ ด้วยสภาพพื้นที่ลุ่มต่ำ โดยทั่วไปคือเป็นพื้นที่กำลังพัฒนาในทุกๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นการคมนาคม ด้านที่อยู่อาศัย อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาน้ำท่วมตลอดเวลา ประกอบกับเป็นพื้นที่ที่มีคลองเป็นจำนวนมาก ขณะนี้เรากำลังรื้อฟื้นโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูคลองบางมด ที่ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) อีกทั้งยังได้รับความร่วมมือจากประชาชนย่านคลองบางมดเป็นอย่างดี
โดยส่วนตัวผมชอบงานภาคสนาม เพราะงานภาคปฏิบัติได้ทั้งกำลังคน กำลังงบประมาณ ได้ใช้ดุลยพินิจด้วยตัวเองในระดับหนึ่งที่จะทำให้นโบบายของผู้บริหารกรุงเทพมหานครได้สำเร็จ”
|
|
ด้วยประสบการณ์ที่เคยผ่านงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นด้านบริหารงานบุคคล กองการเจ้าหน้าที่ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร สถาบันพัฒนาข้าราชการกรุงเทพมหานคร กองปกครองและทะเบียน สำนักเทศกิจ กองการต่างประเทศ หัวหน้าฝ่ายปกครอง หัวหน้าฝ่ายเทศกิจ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตคลองสาน, ตลิ่งชัน และหนองแขม ทำให้เมื่อท่านเข้ามารับตำแหน่งล่าสุดอย่างผู้อำนวยการเขตทุ่งครุนั้นจึงได้ใช้ความรู้ ความสามารถที่มีมาปรับใช้ได้อย่างรวดเร็วและมีการวางแผนงานอย่างมีประสิทธิภาพดังจะเห็นได้จากนโยบายต่างๆ ที่วางไว้
“โดยสภาพพื้นที่ทุ่งครุมีเส้นทางหลักคือประชาอุทิศ และเป็นเส้นทางการจราจรหลักเพียงเส้นเดียวที่ใช้สัญจร แต่ด้วยความที่เป็นพื้นที่ต่ำ ทำให้เกิดน้ำท่วมขังได้ง่าย ทั้งระบบการระบายน้ำที่คล้ายก้างปลา ตามซอยแยกต่างๆ ในบางจุดยังไม่สมบูรณ์ดีพอจึงเป็นโครงการเร่งด่วนในอันดับต้นๆ ที่ต้องเร่งแก้ไข
การเชื่อมเส้นทางลัดต่างๆ เพื่อให้การสัญจรในถนนเลียบวงแหวนเพื่อไปออกพุทธบูชา 36 จะช่วยบรรเทาการจราจรในถนนประชาอุทิศได้อย่างดี ซึ่งทางเขตจะเสนอเรื่องไปยังสำนักงานโยธาเพื่อให้สำนักงานเขตเข้าไปปรับปรุงในลำดับต่อไป”
ไม่เพียงงานด้านการจราจรเท่านั้นที่ผู้อำนวยการเขตทุ่งครุจะให้ความสนใจเป็นอันดับแรก ยิ่งไปกว่านั้นนโยบายเพื่อสิ่งแวดล้อมก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
“ผมวางแผนเพื่อที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวทางด้านเกษตร โดยเฉพาะ “ส้มบางมด” ในพื้นที่ 100 กว่าไร่ ที่มีอยู่เพียง 3-4 แห่งเท่านั้นในเขตทุ่งครุนี้ ซึ่งปัญหาหลักที่มีคือเรื่องน้ำเค็มเข้าถึงพื้นที่เกษตรทำให้ดินเปลี่ยน ส่งผลถึงรสชาติของส้มบางมดนั้นเปลี่ยนไป เราต้องให้สถาบันวิจัยงานเกษตรเข้ามาดูแลเพื่อฟื้นฟูให้ส้มบางมดกลับคืนมา
ยิ่งไปกว่านั้นในพื้นที่ทุ่งครุนี้ยังมีการเลี้ยงแพะเนื่องจากเป็นสังคมพหุภาคี มีชุมชนอิสลามอาศัยอยู่ประมาณครึ่งหนึ่งของพื้นที่ และมีมัสยิดอีก 10 แห่ง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความสัมพันธ์อันเหนียวแน่นในเชิงวัฒนธรรมและประเพณี
|
นอกเหนือจากนี้กระแสสิ่งแวดล้อมดูจะเป็นสิ่งสำคัญที่ประชาชนมีความตื่นตัวและตระหนัก ในฐานะที่ของเขตทุ่งครุซึ่งเป็นเขตที่ได้รับความเดือดร้อนจากสภาพพื้นที่ ทำให้ผมมีความคิดที่จะเริ่มต้นงานด้วยนโยบายการฟื้นฟูคลองต่างๆ ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยมีสถาบันการศึกษาอย่างมจธ. เป็นส่วนหนึ่งในการทำให้นโยบายนี้เป็นจริง
ขณะนี้เราต้องอิงหลักวิชาการ ผลงานการวิจัยจากสถาบันอุดมศึกษาที่มีความเข้มแข็งมาร่วมงานเพื่อพัฒนาชุมชน และยังมีโรงเรียนเอกชน 7 แห่ง โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร 8 แห่งและวัด 4 แห่ง ที่ต้องดูแล และในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ทางสำนักงานเขตทุ่งครุมีกำหนดจัดงานทุ่งครุเกษตรแฟร์ซึ่งถือเป็นกิจกรรมประจำปีของเขตทุ่งครุ”
|
สำหรับโอกาสแห่งการเริ่มต้นเข้ารับตำแหน่งใหม่ในเขตทุ่งครุนี้ ผู้อำนวยการเขตคนล่าสุดได้ขอความร่วมมือร่วมใจจากภาคประชาชนว่า
“ผมอยากฝากถึงประชาชนให้ความสนใจในเรื่องสภาพแวดล้อม ด้วยพื้นที่ของเราเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำมีคลองเป็นจำนวนมาก ผมเพียงต้องการให้พี่น้องประชาชนช่วยกันดูแลคุณภาพน้ำ ลำคลอง สภาพภูมิทัศน์ โดยมีความใส่ใจในเรื่องขยะ น้ำเสีย ขอความร่วมมือเบื้องต้น ผมเงจะทำหน้าที่ประสานงานกับสำนักระบายน้ำให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็จะประสานงานกับสำนักการโยธา สำนักงานจราจรและขนส่งเพื่อปรับปรุงระบบเส้นทางการจราจรเพื่อให้ประชาชนเกิดความสะดวกในการสัญจร และเพื่อการดำเนินชีวิตอย่างอยู่เย็นเป็นสุข”
วารสารหยดน้ำ
|