 ใครจะไปคิดว่าวันหนึ่ง “ยาอมแก้ไอ” เม็ดเล็กๆ ลูกกลมๆ ที่ไม่หอม ไม่หวาน แถมยังมีรสเฝื่อน อีกทั้งชื่อสินค้ายังเป็นชื่อของสัตว์เลื้อยคลานที่บางคนสุดแสนจะหวาดกลัว จะถูกปรับปรุงและแก้ไขจนกลายเป็นผลิตภัณฑ์อันมีคุณค่าที่สร้างรายได้มากมายมหาศาล “ยาอมตราตะขาบ 5 ตัว” คือตำนานยาอมสมุนไพรจีนผสมไทยที่คนทั่วไปคุ้นเคยและรู้จักกันเป็นอย่างดีมากว่า 70 ปี โดยมี คุณสุเทพ สิมะวรา ประธานกรรมการ บริษัทห้าตะขาบ (ซิมเทียนฮ้อ) จำกัด ทำหน้าที่บริหารงานและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง
จากหมอปรุงยาจีนสู่ตำนานยา
“ย้อนไปเมื่อ 80 ปีที่แล้ว คุณพ่อผม (จุ้ยไซ แซ่ลิ้ม) เดินทางจากเมืองจีนเข้ามาสู่เมืองไทยที่ อ.บางคล้า เมืองแปดริ้ว และพอจะมีความรู้เรื่องการต้มยา จัดยา อยู่บ้างจากหมอจีน ระหว่างที่ทำมาหากินก็เกิดอาการป่วยจึงได้หายาและสมุนไพรบางชนิดมาปรุงเพื่อรักษาโรคให้กับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดท้อง ไอ ท้องเสีย ยาหม่อง ยาหอม และเพื่อไว้ใช้ภายในครอบครัว ญาติสนิท และเมื่อยาที่ปรุงขึ้นได้ผลดี รักษาอาการต่างๆได้จึงเริ่มนำยาต่างๆ นั้นไปฝากขายตามร้านขายยา ในช่วงแรกก็มีทั้งร้านที่ยอมนำยาไปขาย และบางร้านก็ไม่ยอมรับ คุณพ่อจึงปรับวิธีการขายโดยการจ้างคนไปโฆษณาขายตามหนังกลางแปลง และเริ่มขายตามร้านขายยามากขึ้นเป็นลำดับ ผู้คนจึงเริ่มรู้จักและมียา 2-3 ชนิดที่พอจะมีชื่อจดจำได้ ที่ขายได้ดีคือ ยาอมแก้ไอ ของหมอซิมเทียนฮ้อ ซึ่งเป็นชื่อร้านขายยา มีความหมายว่า “ลำธารฟ้า”
ต่อมาเมื่อทำยาออกมาได้หลายชนิดก็เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 คุณพ่อจึงพาคุณแม่หลบไปอยู่ที่พระประแดง คุณพ่อจึงมีความคิดว่าการทำยาขายจะต้องมีเครื่องหมายการค้าที่ทำให้คนจดจำได้ง่าย พอดีว่าในช่วงนั้นตรงกับปี 2485-2586 เกิดน้ำท่วมใหญ่ คุณพ่อจึงเห็นว่ามีตะขาบมาก และสังเกตว่าตะขาบนั้นมีลักษณะใหญ่ น่าเกรงขาม และมันก็มีความหมายดีเพราะคนจีนจะมีความคิดว่า เมื่อคนป่วยก็ย่อมจะมีพิษอยู่ในร่างกายโดยมีหลักการว่าการรักษาจะเป็นการนำพิษไปล้างพิษเพื่อรักษา ซึ่งมันก็คือระบบเซรุ่มของยาแผนปัจจุบัน
หลังจากสงครามครั้งที่ 2 ยุติลง คุณพ่อได้กลับมาที่กรุงเทพจึงคิดว่าเห็นทีจะต้องทำเครื่องหมายการค้าสักที จึงคิดทำเป็นรูปตะขาบคู่ ต่อมาจึงได้พัฒนากลายเป็นสัญลักษณ์ตะขาบอย่างที่เห็นในปัจจุบัน”
ที่มา “ตะขาบ 5 ตัว” อันคุ้นเคย
 “คุณพ่อผมมีภรรยาทั้งหมด 5 คน และทุกคนก็สามารถอยู่ร่วมกันได้ในครอบครัวเดียวกัน และแม่ทั้ง 5 ก็มีลูก 10 คน เป็นชาย 5 หญิง 5 ซึ่งตัวเลขนี้เป็นความบังเอิญที่เกิดขึ้น นี่คือความหมายของสัญลักษณ์ “ตะขาบ 5 ตัว” และเหตุผลก็คือเลขนำโชคของคนจีนที่นิยมใช้เพื่อการค้าก็คือ “5” และ “8”
กระทั่งเมื่อคุณพ่อเสียชีวิตลง ผมจึงตัดสินใจออกจากงานที่ทำมารับช่วงงานต่อจากคุณพ่อ ซึ่งเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ของชีวิต ช่วงแรกผมคิดที่จะมาลองทำงานของครอบครัวโดยมีพี่ชายและน้องชายซึ่งต้องออกจากการเรียนกลางคันมาช่วยกันทำบริษัทยา ซึ่งช่วงเวลานั้นผมก็อายุ 40 กว่าแล้วตรงกับปี 2515 ทำให้ต้องคิดหนักว่าถ้าเราทำแล้วไม่ประสบความสำเร็จมันจะเป็นอย่างไรต่อ
เพราะไม่แน่ใจว่ามาทำยาชื่อเชยๆ แบบนี้มันจะขายได้มั้ย แล้วถ้ามันไม่สำเร็จเราจะจัดการอย่างไรกับตัวเอง ไหนจะค่าใช้จ่ายในครอบครัว และค่าเล่าเรียนลูกๆ ที่บีบรัดให้ต้องเดินหน้าและพยายามทำให้ได้”
สู่ช่วงการขยับขยายและปรับเปลี่ยน
“เมื่อได้เข้ามาจับงานอย่างจริงจังก็เริ่มมีการปรับเปลี่ยนแบบบรรจุภัณฑ์ให้ดูดีขึ้น และเมื่อเวลาผ่านไปได้สักระยะผมจึงเริ่มขยับขยายซื้อที่ย่านพระราม 2 เพื่อสร้างโรงงานย้ายครอบครัวจากซอยแซ่ซิ้มมาที่นี่ จนเมื่อปี 2520 จึงตัดสินใจกู้เงินธนาคารมาสร้างโรงงานและบ้าน บนพื้นที่ 3 ไร่เศษ ตอนนั้นมีการเปลี่ยนจากกระดาษแก้วเป็นซองพลาสติก ตั้งแต่ราคาซองละ 1 บาท มาเป็นซองละ 1.50 บาท 2 บาท 3 บาท 4 บาท จนปัจจุบันซองละ 10 บาทเพราะต้นทุนทุกอย่างขึ้นราคาสูงมาก จากตันละ 1,000 ยูเอสดอลล่าร์ กลายมาเป็น 5,000 ยูเอสดอลล่าร์ แต่ราคาเรายังถือว่ามีการปรับที่ไม่มากนัก
นอกจากนี้เรายังมีการเพิ่มกลิ่นหอมและรสชาติ เช่น ผงตะไคร้ กลิ่นบ๊วย เลมอน มิ้นท์ รวมทั้งการคิดค้นยาอมรสใหม่ที่กำลังจะออกวางขายในเร็วๆ นี้คือ ลิ้นจี่ ขิง สตรอเบอร์รี่ องุ่น แอ๊บเปิ้ล และปรับเป็นแพ็คเกจฟอยล์หลุมในปีหน้า”
ผลิตภัณฑ์ได้มาตรฐานสากล
“เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาเราต้องทำให้ยาได้มาตรฐานตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุข จนมีการขยายไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ ยุโรป เมื่อเราได้ GMP แล้ว ทางฮ่องกงก็เริ่มเข้ามาติดต่อเป็นตัวแทนจำหน่าย เพื่อนำไปขายต่อในมาเก๊า จีน และเมื่อ 3 ปีก่อนเราก็ได้ติดต่อทำสัญญาการขายกับประเทศจีน
เมื่อมีเวลาเราก็เพิ่มเครื่องจักร เปลี่ยนรูปลักษณ์ใหม่ๆ เพราะเรามุ่งประสิทธิภาพในการผลิต และทำการตลาดให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้นไม่ว่าจะเป็นปั๊มน้ำมัน โรงพยาบาล โมเดิร์นเทรด หรือร้านสะดวกซื้อต่างๆ นอกจากนี้เรายังทำการส่งออกไปยังประเทศฮ่องกงประมาณเดือนละ 30 ล้านบาทและอีกหลายประเทศ”
สิ่งที่ทำให้ “ยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว” สามารถยืนหยัดได้จนถึงทุกวันนี้นั่นเป็นเพราะผู้บริหารยึดหลักทำสินค้าที่มีคุณภาพเพื่อให้ผู้บริโภคได้ใช้สินค้าอย่างคุ้มค่า ซื่อสัตย์ต่อผู้บริโภค รับผิดชอบต่อสินค้าและปรับปรุงสินค้าให้มีคุณภาพที่ดี อีกทั้งยังบริหารงานด้วยความยุติธรรม อบรมให้ความรู้แก่พนักงาน ให้ทุนการศึกษากับบุตรของพนักงาน ดูแลกันเสมือนเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัว ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนทำให้กิจการกว่า 70 ปี ของ “สิมะวรา” ยังคงยืนหยัดได้จนถึงทุกวันนี้
บรรยาย : ยาอมรุ่นแรกๆ ที่ยังคงเก็บรักษาเอาไว้ตั้งแต่ปี 2494 จนถึงปัจจุบัน
วารสารหยดน้ำ
พฤกษาคม-มิถุนายน 52
|
