"ไฟใต้" เรื่องจริงจากพื้นที่เสี่ยงภัย
ในช่วงเวลา 7-8 ปีที่ผ่านมา ปัญหาชายแดนภาคใต้เกี่ยวกับการก่อความรุนแรงต่างๆ ได้มีจำนวนมากขึ้น นับแต่ปี 2544 เป็นต้นมา ซึ่งปัจจุบันเหตุการณ์ดังกล่าวยังคงไม่หมดสิ้นไปจากประเทศไทย เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งเพื่อรักษาผืนแผ่นดินของชาติจากกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่ยังคงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อทำการแบ่งแยกดินแดน และคงไม่มีใครบอกกล่าวถึงสถานการณ์ ณ ปัจจุบันให้เราทราบได้ดีเท่ากับนายตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่
ซึ่งทาง “หยดน้ำ” และเพื่อนสมาชิกชมรมสุขสวัสดิ์ ๑๔ มีโอกาสนำเครื่องอุปโภคบริโภคซึ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และพี่น้องชาวมุสลิมในพื้นที่เสี่ยงภัย ถือเป็นภาคเอกชนกลุ่มแรกที่ลงพื้นที่จริงไปมอบกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อชาติ
|
พ.ต.อ.สมพงษ์ชิงดวงรองผบก.ภูธรจังหวัดนราธิวาส
จากมือปราบนครบาลสู่พื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้
“จริงๆ แล้วการทำงานในนครบาล หรือจะในกองปราบก็เป็นการทำงานอีกลักษณะหนึ่ง ส่วนการทำงานที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นถือว่าเป็นการทำงานที่ตำรวจอาชีพต้องเอาความเสียสละ ความเสี่ยงภัย มาวางไว้บนบ่า และต้องทำงานทุกรูปแบบทั้งงานมวลชน งานสืบสวน งานปราบปราม การให้บริการประชาชน การดูแลให้ความเป็นธรรมแก่ประชาชน คือมันต้องทำงานมากมาย เพื่อที่จะให้พี่น้องประชาชนอยู่กันอย่างสงบ
เป็นที่น่าเสียดายที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของเรามีปัญหาความขัดแย้งซึ่งจริงๆ แล้วโดยสภาพภูมิประเทศของที่นี่นับว่าเป็นสถานที่ที่อุดมไปด้วยธรรมชาติสวยงาม มีสนามบินขนาดใหญ่ คิดดูว่าถ้าเหตุการณ์สงบลงนักท่องเที่ยวก็จะมาเที่ยวมากขึ้น การท่องเที่ยวก็จะดี ชาวบ้านรากหญ้าก็จะมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น ทั้งในเรื่องของชาวสวนก็จะขายผลไม้ได้ดีมีราคา ชาวบ้านก็จะขายน้ำ ขายอาหารได้ มอเตอร์ไซค์วิน รถรับจ้างก็จะมีรายได้ที่ดี แต่เมื่อไม่มีนักท่องเที่ยวมา คนไม่มาเที่ยว ชาวบ้านก็ไม่มีเงินค่าจ้างคนที่จะไปช่วยเก็บเงาะ ลองกอง ก็ต้องปล่อยให้ร่วงลงจากต้น เป็นความเสียหาย เสียดายโอกาสที่ชาวบ้านควรจะได้รับ ทั้งที่เขาควรจะมีชีวิตที่ดี มีความสุข”
|
ณ เหตุการณ์ปัจจุบัน
“สถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นยังมีความหนัก ซึ่งยังคงมีกลุ่มต่อต้านอำนาจรัฐ มีความพยายามที่จะปลุกปั่นให้เยาวชนต่อต้านเจ้าหน้าที่รัฐโดยอ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่รัฐ จากที่เคยสอบถามจากผู้หลงผิดซึ่งเขาก็ได้ให้ข้อมูลแก่เราอย่างดี โดยเฉพาะเรื่องของกระบวนการแบ่งแยกดินแดน มีการปลุกระดม เยาวชนและสอนศาสนาในทางที่ผิด และต่อต้านอำนาจรัฐ พยายามที่จะสร้างเงื่อนไขให้เกิดความรุนแรง
จากในอดีตอาจจะมีความไม่เข้าใจกันเกิดขึ้น แต่ว่าขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่รัฐได้ให้ความเป็นธรรมต่อพี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเราไม่แบ่งความแตกต่างในการนับถือศาสนา คือเราแตกต่างในการนับถือศาสนาได้แต่เราไม่แตกแยกและนโยบายของรัฐก็ให้คุ้มครองคนที่เข้ามารายงานตัวหรือมามอบตัวให้มีความปลอดภัย คือจริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องของการสร้างสถานการณ์ของคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
การแก้ปัญหาตรงนี้มันไม่ใช่เป็นเพียงหน้าที่ของตำรวจ หรือว่าทหารเท่านั้น แต่มันเป็นหน้าที่ของทุกฝ่าย เช่น กระทรวงศึกษาธิการ ก็ต้องเข้ามาดูแลเรื่องการศึกษา กระทรวงเกษตรฯ ก็ต้องเข้ามาดูแลเรื่องปุ๋ย เรื่องพันธุ์พืชทางเกษตรให้ชาวบ้าน กระทรวงพาณิชย์ ก็ต้องเข้ามาดูเรื่องการตลาด กระทรวงสาธารณสุข ก็ต้องเข้ามาดูแลเรื่องสุขภาพอนามัย กระทรวงคมนาคมก็ต้องเข้ามาดูแลเรื่องถนนหนทางเพื่อให้ประชาชนเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก
คือทุกกระทรวงต้องเข้ามาช่วยกันทุกฝ่าย ตอนนี้ในส่วนของภาครัฐนั้นก็มีนโยบายต้องการให้ปัญหาหมดไป ซึ่งมีการสนับสนุนงบประมาณ มีการสร้างงาน สร้างอาชีพในพื้นที่เพื่อส่งเสริมให้ชาวบ้านมีรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังคงมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีคอยก่อความไม่สงบอยู่เรื่อยๆ มีผู้ที่พยายามบิดเบือนข้อมูลข่าวสารและสร้างความเข้าใจผิดอยู่เรื่อยๆ ”
|
ในส่วนลึกของเจ้าหน้าที่
“เป็นภาวะความเครียดที่เกิดขึ้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่ที่อยู่ตรงนี้มีความเครียดสูง ไม่มีเวลาที่จะพักผ่อนหรือไปช้อปปิ้งเหมือนคนที่อยู่ในกรุงเทพ อย่างบางเทศกาลยังไม่มีเวลาพาครอบครัวไปไหนได้ เพราะชีวิตมีแต่การทำงานและการทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ยิ่งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยเช่นนี้ยิ่งมีความเครียดมาก แต่ก็มีเรื่องที่น่ายินดีที่ทางรัฐบาลได้ให้ความสนใจสนับสนุนเงินค่าความเสี่ยงภัย จาก 1,000 บาท เป็น 2,500 บาท และยังจัดสวัสดิการให้ดีขึ้น
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ยังขาดแคลนเรื่องเครื่องไม้เครื่องมือในการทำงาน เช่นเครื่องตรวจวัตถุระเบิดซึ่งมีราคาเครื่องละ 1 ล้านบาทเศษ เราก็ยังมีไม่เพียงพอ บางโรงพักก็ยังไม่มี ซึ่งถ้าหากมีครบทุกโรงพักเราก็ยังสามารถให้นักเรียนของศูนย์ฯ ไปเดินตรวจวัตถุระเบิดได้ แต่นี่เรามีเครื่องไม้เครื่องมือไม่เพียงพอทำให้บางครั้งเราต้องสูญเสียประชาชนหรือเจ้าหน้าที่ไปเป็นจำนวนมาก
จริงๆ มันก็เหมือนทำงาน 24 ชั่วโมง เพราะทำงาน 8 ชั่วโมงแล้วพัก หรือจะทำงาน 16 ชั่วโมงแล้วพัก แต่เมื่อมีเหตุการณ์ก็ต้องทำงาน เนื่องจากที่พักก็อยู่ในที่แห่งเดียวกัน ฉะนั้นการพักก็เหมือนไม่ได้พัก ต้องทำงานตลอดเวลา บางครั้งทำให้เกิดความเครียดบ้าง แต่ก็ต้องปฏิบัติหน้าที่เพื่อชาติ เพื่อพี่น้องประชาชนที่อยู่แนวหลัง”
|
หยดน้ำใจสู่ชายแดน
“ยังถือว่าเป็นความโชคดีของเราที่ยังมีกลุ่มภาคเอกชนเล็งเห็นความสำคัญได้ลงพื้นที่มาเยี่ยมเยียนให้ความช่วยเหลือในสิ่งที่ขาดแคลน ไม่ว่าจะเป็นสถาบันพระปกเกล้าฯ ซึ่งก็ได้นำสิ่งของมาให้กำลังใจทหารตำรวจ และชาวบ้านที่อยู่ที่นี่
นอกจากนี้ยังมีชมรมสุขสวัสดิ์ ๑๔ โดยท่านประธานชมรม คุณสมชาย จงพิพิธพร ได้นำคณะทำงานลงมามอบสิ่งของที่มีความจำเป็นทั้งเครื่องทำน้ำเย็น อุปกรณ์อำนวยความสะดวก เครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ ให้แก่นายทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน นักเรียน ชาวบ้าน และพี่น้องชาวมุสลิม ซึ่งนำความปลาบปลื้มและยินดีมาสู่พื้นที่ ทำให้นายทหารและตำรวจที่นี่ได้รับกำลังใจที่ดีที่จะทำหน้าที่กันต่อไป
พ่อแม่พี่น้องในแนวหลัง หากมีน้ำใจลงมาถึงพื้นที่ก็เหมือนเป็นน้ำทิพย์ชะโลมใจ อย่างน้อยการแสดงความมีน้ำใจก็ยังมีความสำคัญ ตอนนี้ขวัญและกำลังใจของผู้ปฏิบัติหน้าที่ที่นี่บางส่วนก็ดีขึ้น บางส่วนก็ยังเครียดหากมีเหตุการณ์รุนแรงขึ้น จากสถิติแล้วเราได้รับความร่วมมือที่ดีขึ้นเพราะทุกฝ่ายร่วมมือกัน และยังได้กำลังใจจากพี่น้องแนวหลัง
สิ่งสำคัญที่อยากจะฝากถึงประชาชน นั่นก็คือ อยากให้สังคมไทยมีจิตสำนึกแห่งความรับผิดชอบร่วมกัน ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ต้องมีความผูกพัน มีความรักต่อกัน และมีความยุติธรรม อย่าเอาเปรียบซึ่งกันและกัน ผมว่าปัญหาต่างๆ น่าลดลงมากกว่านี้และทุกอย่างจะคลี่คลายไปในทางที่ดี”
|
ร.ต.ท.วีระยุทธเอียงกลับ
รองสว.ป.สภ.อ.ระแงะรักษาราชการแทนผู้บังคับหมวดนปพ.พื้นที่ 339
อ.ระแงะอายุ 40 ปี
ผมสัญญาว่ารับใช้ประเทศชาติต่อไป
“ผมมาประจำอยู่ที่ตันหยงมัสนี่ได้ 3 เดือนแล้ว แต่ก่อนหน้านี้ก็ไปทำหน้าที่ในส่วนอื่นๆ มีความภูมิใจครับที่มีโอกาสได้มาทำหน้าที่ตรงนี้ กำลังใจสำคัญอยู่ที่ผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงานที่ดี และครอบครัวผมเองก็คอยเป็นกำลังใจให้และพวกเขาอยู่ในพื้นที่นี้กับผม ในฐานะที่อยู่ในพื้นที่นี้ร่วม 20 ปี ปัญหาที่เกิดขึ้นผมคิดว่าเป็นความไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน แต่ถึงแม้จะมีปัญหาหนักหนาแค่ไหน เราก็มีความเต็มร้อยกับการทำงาน
สิ่งที่ขาดแคลนตอนนี้คือปัจจัย 4 และต้องการเตียง 2 ชั้น อุปกรณ์เครื่องนอน ซึ่งตอนนี้ก็เข้าหน้าฝนแล้วบางครั้งฝนตกลงมาทำให้ที่นอนเปียกแฉะเพราะหลังคารั่ว ผมสัญญาว่าจะไม่ย้ายไปไหน แต่จะขอรับใช้ประเทศชาติในพื้นที่นี้ต่อไป สำหรับการที่มีคนเห็นใจและคิดถึงพวกเราอย่างชมรมสุขสวัสดิ์ ๑๔ เปรียบเสมือนมีความกรุณาจากฟากฟ้าที่เหมือนการให้กำลังใจคนทำงานอย่างเราครับ”
|
|
ส.ต.ท.ธงชัยจันทร์แก้วอายุ 30 ปี
อาวุธยุทโธปกรณ์ยังล้าสมัย
“อยากได้อาวุธที่มีประสิทธิภาพพอ ซึ่งอาวุธที่ใช้อยู่ก็ยังพอใช้ได้ แต่บางครั้งก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไรนัก อย่างที่พักตอนนี้ก็อยากได้หลังคาที่ดีกว่านี้ เพราะเวลาที่ฝนตกก็เปียกกันหมด อย่างอื่นก็มีครบหมดแล้วครับ สำหรับเครื่องใช้ส่วนตัวก็ต้องการยาสีฟัน สบู่ อะไรเหล่านี้ที่ต้องการ
ส่วนเรื่องหัวใจตอนนี้เต็มพันเปอร์เซ็นต์ครับ ความรู้สึกที่อยู่ตรงนี้คือ 4 ปีมาแล้วที่อยู่ภาคใต้ ก็อยากให้คนไทยทุกคนรักกัน ไม่ใช่ว่าพูดแค่ปากว่ารักในหลวง แต่ว่าการกระทำนั้นต้องกระทำออกมาด้วย”
|
|
ส.ต.ท.ณรงค์ศักดิ์ไชยแสงศรีอายุ 27 ปี
คนนราฯที่ไม่ค่อยได้กลับบ้าน
“ความเปลี่ยนแปลงในด้านสถานการณ์คือภาพรวมดีขึ้น แต่ก็ยังไว้ใจอะไรไม่ได้ เพราะผู้ไม่หวังดียังคงก่อเหตุการณ์อยู่เรื่อยๆ โดยเฉพาะเขามีแผนใหม่ๆ และอาวุธใหม่ๆ มาเรื่อยๆ สภาพความเป็นอยู่ในหน่วยก็ถือว่าลำบากในเรื่องที่อยู่อาศัย แต่ว่าตอนนี้รอง ผบก. ก็มีการตรวจเยี่ยมและปรับปรุงสภาพให้ดีขึ้น
นอกจากนี้ยังขาดเครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องตรวจอาวุธ เครื่องสแกนบัตรประชาชน ของเรายังไม่พร้อมสักเท่าไร เพราะบางครั้งเราแค่ตรวจบัตรด้วยสายตาธรรมดาเราไม่สามารถทราบได้เลยว่าคนๆ นี้มีฐานข้อมูลอยู่หรือไม่ บางครั้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการตรวจสอบก็ต้องแจ้งไปทางโรงพัก และโรงพักจึงจะลงมาตรวจสอบ กว่าจะรู้ผลก็ใช้เวลานานบางครั้งทำให้ประชาชนเบื่อกับการรอคอยเจ้าหน้าที่
ผมคนนราธิวาสโดยกำเนิดแม้จะอยู่ในพื้นที่นราธิวาสกับครอบครัว แต่ก็นานๆ ครั้งจึงจะไปเยี่ยมครอบครัวไม่สามารถไปได้บ่อย ต้องมีความจำเป็นจริงๆ อย่างเช่นพ่อแม่ไม่สบายหรือว่ามีงานทำบุญจึงจะได้กลับสักครั้งหนึ่ง”
|
|
ความรู้สึกจาก “หยดน้ำ”
แม้ความรู้สึกของคนจำนวนมาก เมื่อกล่าวถึง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แล้วรู้สึกหวาดกลัว และคิดว่าเป็นความเสี่ยงภัยถึงขั้นชีวิตหากต้องลงไปสัมผัสในพื้นที่เหล่านั้น อยากให้ลองเปลี่ยนความรู้สึกนั้น เป็นความห่วงใย ความปรารถนาดี และเป็นความรู้สึกสำนึกรับผิดชอบรักในแผ่นดินไทยร่วมกัน เพราะเหล่าตำรวจ ทหาร ตลอดจนเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ต้องลำบากจากบ้านจากครอบครัวอันเป็นที่รัก เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินส่วนนี้ ทุกคนยังขาดขวัญกำลังใจ ตลอดจนสภาพความเป็นอยู่ซึ่งค่อนข้างลำบาก นอนกลางดินกินกลางทราย ปัจจัยขั้นพื้นฐานในการดำรงชีพนั้นค่อนข้างลำบาก
อยากให้ทุกหน่วยงาน ให้ความสำคัญ เล็งเห็นถึงความเสียสละของคนเหล่านี้ หากใครพอมีกำลังทรัพย์ หรืออยากแสดงความมีน้ำใจต่อเหล่าผู้กล้า สามารถติดต่อผ่านทางหน่วยงานของรัฐได้ทุกเวลา เพราะปัญหานี้หาใช่ปัญหาของภาคส่วนใดส่วนหนึ่ง แต่อยากให้ทุกคนมองเป็นปัญหาของประเทศชาติที่เราต้องรับผิดชอบร่วมกัน เพื่อแผ่นดิน เพื่อในหลวงของเรา
|