|
นายพงศ์ธร ป้อมสัมฤทธิ์
ผู้อำนวยการสำนักงานขนส่งเขตพื้นที่ 1
เมื่อพูดถึงการติดต่อส่วนราชการหลายคนอาจติดภาพลักษณ์เดิมๆ ที่ต้องใช้เวลารอนาน เจ้าหน้าที่ไม่กระตือรือร้น หรือสารพัดปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อต้องไปสถานที่ราชการ แต่สำหรับสำนักงานขนส่งเขตพื้นที่ 1 ภายใต้ความรับผิดชอบของ นายพงศ์ธร ป้อมสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานขนส่งเขตพื้นที่ 1 ต้องบอกว่าเป็นการพลิกภาพความเชื่อเดิมๆ ไปสิ้น ทั้งนี้เพราะท่านเป็นผู้ริเริ่มและพัฒนาการทำงานของข้าราชการในรูปแบบใหม่ที่ทันสมัยและได้มาตรฐานการบริการอย่างแท้จริง
 |
จากเจ้าหน้าที่สถิติสู่เก้าอี้ผู้อำนวยการ
“ผมเริ่มทำงานราชการเมื่อครั้งที่ยังเรียนอยู่นิติศาสตร์ ปี 3 มหาวิทยาลัยรามคำแหง ก็สอบบรรจุเข้าเป็นเจ้าหน้าที่สถิติกรมการขนส่งทางบก และเมื่อเรียนจบปริญญาตรีจึงได้เป็นนักวิชาการกรมการขนส่งเมื่อปี 2522 งานในช่วงแรกจะเป็นการตรวจสภาพรถบรรทุก คุมทะเบียนรถบรรทุก จากนั้นจึงไปประจำอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาก็อยู่ที่สำนักงานขนส่งเขตพื้นที่ 2 สิงห์บุรี และเริ่มเป็นหัวหน้าฝ่ายวิชาการที่จังหวัดอุตรดิตถ์ และในขณะเดียวกันก็เรียนต่อปริญญาโทที่นิด้า ในจังหวัดอุตรดิตถ์ และย้ายเข้ากรุงเทพฯ อีก 1 ปี
เนื่องจากในช่วงปี 2523 มีการปรับกฎหมายใหม่สำหรับงานของกรมการขนส่งทางบกคือต้องการเพิ่มทรัพยากรบุคคลในตำแหน่งนักวิชาการขึ้นมาเพื่อดูแลเรื่องกฎหมาย ขนส่งที่ออกมาใหม่ เรื่องการประกอบการ เป็นที่ปรึกษาของขนส่งจังหวัด โดยก่อนหน้าที่จะมีการปรับเปลี่ยนนั้นบุคลากรส่วนใหญ่จะมาทางสายวิศวกร สายช่าง ซึ่งยังไม่มีความเข้าใจเรื่องกฎหมายอย่างถ่องแท้ จึงต้องมีนักกฎหมายเข้ามาช่วยงานในด้านนี้ และเมื่อปี 2544 ก็ได้เป็นผู้อำนวยการขนส่งจังหวัดสิงห์บุรี อยุธยา ชัยภูมิ สุพรรณบุรี ตามลำดับก่อนที่จะมาประจำที่นี่”
จุดต่างของงานขนส่งต่างจังหวัดและกทม.
“ความแตกต่างของแต่ละที่ก็ไม่เหมือนกัน เพราะในต่างจังหวัดเราทำหน้าที่เสมือนตัวแทนกรมการขนส่ง มีอำนาจคล้ายกรมเกือบทุกอย่าง สามารถดำเนินการในจังหวัดได้ทั้งหมด มีการประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ดูแลผู้ประกอบการ อัตราค่าโดยสาร นอกจากรับนโยบายจากกรมแล้วยังต้องทำหน้าที่แทนกรมฯ ทั้งหมด
ส่วนงานในสำนักงานขนส่งเขตพื้นที่เดิมที่เหมือนเป็นสำนักงานสาขาของจังหวัด ปัจจุบันมีการปรับปรุงใหม่ให้มีการต่อทะเบียนได้สะดวกยิ่งขึ้น เนื่องจากมีการเปลี่ยนระบบใหม่ทั้งหมด มีการรวมศูนย์ไว้ที่ส่วนกลาง มีการลิงค์ข้อมูลทั้งหมดทั่วประเทศในทุกๆ เช้า อย่างเรื่องการต่อภาษีที่ต้องถือหนังสือเล่ม ต้องยื่นคำขอ ปัจจุบันเราตัดความยุ่งยากทั้งหมดออกไป ให้การต่อภาษีเป็นเรื่องง่าย เพียงแค่บอกเลขทะเบียนหรือสำเนาทะเบียนรถมาเท่านั้น ก็สามารถทำได้ เพราะเราถือว่าประชาชนเป็นผู้เสียภาษีให้รัฐฉะนั้นเราต้องอำนวยความสะดวกให้มากที่สุด”
|
เพียงปีเศษที่ท่านผู้อำนวยการสำนักงานขนส่งเขตพื้นที่ 1 ได้เข้ามาดูแลพื้นที่รับผิดชอบนับตั้งแต่เขตบางขุนเทียน เขตธนบุรี เขตคลองสาน เขตราษฎร์บูรณะ เขตทุ่งครุ เขตจอมทอง เขตบางบอน เขตบางคอแหลม เขตยานนาวา และเขตสาทร นั้น ท่านได้ใช้ประสบการณ์การรับราชการที่มีมากว่า 30 ปี มาปรับปรุงและยกระดับการให้บริการประชาชน
“ยังมีกฎหมายใหม่ๆ ที่คนยังไม่ทราบก็คือเรื่องการทำใบขับขี่ จากเดิมที่ต้องต่ออายุบัตรโดยการอยู่ที่จังหวัดไหนต้องไปที่จังหวัดนั้น ซึ่งภาพที่เคยชินคือช่วงเทศกาลสงกรานต์คนจะกลับบ้านไปต่อใบขับขี่กันมาก แต่เดี๋ยวนี้ไปสอบใบขับขี่ที่ไหนก็ได้ สามารถมายื่นทำที่สาขาได้ทันที โดยจะออกบัตรใหม่ให้ตามวันเกิดเช่นเดียวกับบัตรประชาชน คือครั้งแรกเราจะต่ออายุให้ 1 ปี เมื่อครบ 1 ปีแล้วจึงจะมีสิทธิต่ออายุใบขับขี่ได้คราวละ 5 ปี ไปเรื่อยๆ และการต่ออายุใบขับขี่นั้นจะต้องให้หมดอายุบนบัตรเสียก่อนจึงจะทำใหม่ได้ บางคนไม่ทราบว่ามีหลักเกณฑ์นี้แล้วมาต่ออายุบัตรล่วงหน้าอาจทำให้เสียเวลา จึงขอฝากและเน้นให้การประชาสัมพันธ์ให้ทราบด้วย”
เป้าหมายการทำงาน
“ปัญหาด้านสถานที่ที่กำลังรองบประมาณมาปรับปรุงทัศนียภาพให้ดีขึ้น ผมของบประมาณมาปีเศษแล้วแต่ก็ยังได้มาไม่มากนัก อันดับแรกคือเรื่องของอาคารสถานที่ยังไม่โปร่งโล่งนัก โดยเฉพาะเรื่องเครื่องปรับอากาศที่เก่ามาก ทำให้เปลืองไฟมาก เมื่อเปลืองไฟมากก็เปิดนานไม่ได้ เมื่อเปิดนานไม่ได้ประชาชนก็หงุดหงิด
.jpg) |
อย่างเรื่องการต่อภาษีที่ต้องถือหนังสือเล่ม ต้องยื่นคำขอ ปัจจุบันเราตัดความยุ่งยากทั้งหมดออกไป ให้การต่อภาษีเป็นเรื่องง่าย เพียงแค่บอกเลขทะเบียนรถมาเท่านั้น ก็สามารถทำได้ เพราะเราถือว่าประชาชนเป็นผู้เสียภาษีให้รัฐฉะนั้นเราต้องอำนวยความสะดวกให้มากที่สุด |
ว่ามีแอร์ทำไมไม่เปิด เจ้าหน้าที่ก็หงุดหงิดเพราะร้อน ที่เก็บเอกสารที่มีจำนวนจำกัด แต่ละวันจะมีคนเข้ามาติดต่อเป็นจำนวนมากวันละ 400-500 คน ขนาดเวลาหยุดพักรับประทานอาหารยังมีเพียงคนละ 20 นาทีต่อคนเท่านั้น โดยการสลับกันไปทีละ 2 คน เพราะในช่วงเวลาพักเที่ยงจะมีประชาชนรอใช้บริการเป็นจำนวนมาก ฝ่ายประชาสัมพันธ์ก็ต้องแบ่งเป็น 2 ชุด ต้องดูแลเรื่องเอกสารว่าครบมั้ย และต้องแนะนำว่าจะต้องไปติดต่อที่ช่องไหนเพื่อความสะดวกรวดเร็ว
สำหรับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานฯ จะเริ่มงานตั้งแต่เวลา 8.00 น. เนื่องจากมีประชาชนมายื่นรอเอกสารกันมาก ซึ่งผมเองได้ทำการยื่นขอสร้างอาคารที่พักให้เจ้าหน้าที่ไปทางกรมฯ แล้ว ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าภายใน 2-3 ปีนี้จะมีความเป็นไปได้เพียงใด”
โครงการรถเคลื่อนที่ในอนาคต
“ตามปกติในวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ แต่ว่าทางสำนักงานขนส่งฯ เปิดให้บริการยื่นเสียภาษีรถ ที่ห้างคาร์ฟูร์ สาขาลาดพร้าว รามอินทรา รัชดาภิเษก บางปะกอก เพชรเกษม สุขาภิบาล 3 แจ้งวัฒนะ สำโรง และ อ่อนนุช ตั้งแต่เวลา 9.00-18.00 น.
ต่อไปจะมีการบริการรถเคลื่อนที่เพื่อรับสอบใบขับขี่ ในวันหยุด และถ้ามีสถานที่เหมาะสมก็จะมีการสอบปฏิบัติด้วย อาจจะใช้สถานที่โรงเรียนแห่งใดแห่งหนึ่ง ซึ่งในต่างจังหวัดเริ่มมีการทำบ้างแล้ว สำหรับในกรุงเทพขณะนี้กำลังรอรถโมบายติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ทดสอบภาคทฤษฎี คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในปีนี้ และหากมีความพร้อมเมื่อไรจะแจ้งให้ประชาชนทราบทันที
ส่วน บริษัท ห้างร้าน ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ หากมีความประสงค์เรื่องการตรวจสภาพรถ อบรม พนักงานเรื่องการขับขี่รถ หรือต้องการทำใบขับขี่ในวันเสาร์-อาทิตย์ ในจำนวน 50-100 คนขึ้นไป สามารถขอรับบริการได้เป็นกรณีพิเศษได้ที่กรมการขนส่งพื้นที่ เขตพื้นที่ 1”
ผู้ที่ต้องการทราบรายละเอียดต่างๆ ในการติดต่องานทะเบียนของกรมการขนส่งทางบก 1 สามารถติดต่อไปได้ที่หมายเลข 0-2415-7337 หรือ www.dlt.go.th
วารสารหยดน้ำ
ฉบับเดือนกรกฎาคม - สิงหาคม 52
|
