พญ.ศิริกานต์ นิเทศวรวิทย์ อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ (โรคต่อมไร้ท่อ)
|
ออกกำลังกาย
สบายๆ สไตล์...เบาหวาน
การออกกำลังกายดูเป็นเรื่องที่ง่ายๆ และธรรมดา แต่สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน กลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะต้องคำนึงถึงโรคแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นด้วย ดังนั้นก่อนจะคิดบริหารร่างกายด้วยวิธีใด ก็ควรได้รับการประเมินหาภาวะแทรกซ้อนก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ดังกรณีต่อไปนี้
1. โรคหัวใจและหลอดเลือด สำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่มีอายุมากกว่า 35 ปี หรือป่วยเป็นโรคเบาหวานมานาน หรือมีปัจจัยเสี่ยงต่อหลอดเลือดหัวใจตีบอื่นๆ เช่น สูบบุหรี่ มีกรรมพันธุ์ทางสายเครือญาติที่มีภาวะความดันโลหิตสูง ไขมันสูง หรืออาจมีโรคแทรกซ้อนอื่นๆ อยู่แล้ว เช่น โรคหัวใจ ก่อนออกกำลังกาย ควรได้รับการตรวจโดยการวิ่งบนสายพานเพื่อประเมินประสิทธิภาพของร่างกายก่อน
|
2. โรคหลอดเลือดแดงขาตีบ ผู้ป่วยมีอาการปวดขาเวลาเดิน แต่พอได้พักก็จะหายปวด กรณีนี้ควรได้รับการประเมินหลอดเลือดแดงที่ขาก่อน หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่มีอันตรายต่อเท้า และควรสวมเครื่องป้องกันเท้า สามารถออกกำลังโดยการเดิน ขี่จักรยาน ว่ายน้ำได้
3. โรคแทรกซ้อนทางตา ควรได้ตรวจจอรับภาพก่อน และงดการออกกำลังกายบางประเภทที่อาจทำให้ตาบอดได้ เช่น การยกน้ำหนัก การงัดข้อ การวิดพื้น การชกมวย การวิ่ง การเป่าเครื่องดนตรี โดยเลือกการออกกำลังกายเบาๆ แทน เช่น เดิน ขี่จักรยานอยู่กับที่ และว่ายน้ำ
ก่อนออกกำลังกาย ควรวอร์มร่างกายก่อน 5-10 นาที ตามด้วยการยืดกล้ามเนื้อและเอ็น จากนั้นให้ออกกายบริหารโดยการวิ่ง หรือเดินเร็วๆ 30 นาที หลังจากออกกำลังกายให้พัก 5-10 นาที และยืดกล้ามเนื้ออีก 5-10 นาที การออกกำลังกายขึ้นอยู่กับสภาพความพร้อมของร่างกายผู้ป่วย ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ ระยะเวลาของการออกำลังกายควรอยู่ที่ 30-40 นาที หรืออย่างน้อย 20 นาทีต่อครั้ง ช่วงเวลาที่เหมาะสมคือ 16.00 น. เพราะจะทำให้น้ำตาลตอนเช้าลดลง การออกกำลังกายหลังอาหารจะช่วยลดน้ำตาลในเลือดลงได้
การออกกำลังกายไม่ว่าจะเดิน ขี่จักรยาน วิ่ง วิ่งอยู่กับที่ ว่ายน้ำ แอโรบิค หรือการยกน้ำหนักเบาๆ ก็ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของผู้ป่วย ควรเริ่มจากเบาไปหาหนัก เริ่มจากเบาคือให้มีอัตราการเต้นของหัวใจอยู่ระดับ 40% ของอัตราการเต้นสูงสุด ซึ่งความหนักของการออกกำลังกายใช้อัตราเต้นสูงสุดของหัวใจเป็นเกณฑ์ โดยทั่วไปแนะนำให้ออกกำลังจนอัตราหัวใจเต้นได้ 60-80% ของอัตราการเต้นสูงสุด ซึ่งหลักเกณฑ์ของอัตราการเต้นหัวใจสูงสุด เท่ากับ 220-อายุผู้ป่วย
เพื่อการออกกำลังกายอย่างปลอดภัย ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาก่อน โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับยาฉีดอินซูลิน และควรป้องกันแผลอันอาจเกิดขึ้นจากการออกกำลังกาย เช่นตาปลา หรือการอักเสบที่เท้า นอกจากนี้การดื่มน้ำให้เพียงพอก่อนออกกำลังกายและหลังจากนั้นก็เป็นสิ่งจำเป็น ที่สำคัญควรพกน้ำตาลติดตัวไปด้วย เพื่อป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ แม้จะมีเงื่อนไขบ้าง แต่ผู้ป่วยเบาหวานก็สามารถออกกำลังกายแบบสบายๆ และปลอดภัยได้ถ้าไม่ประมาท!!...
วารสารหยดน้ำ
ฉบับเดือนมีนาคม - เมษายน 2553
|