เลิกรบสงบศึก
ReadyPlanet.com
dot


  [Help]
dot
Greenway Station
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
Greenway Member
ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
เข้าสู่ระบบอัตโนมัติ :
bullet ลืมรหัสผ่าน
bullet สมัครสมาชิก
dot


เลิกรบสงบศึก
                บ้านของสมจิตรมีแมวสองแม่ลูกมาอาศัยอยู่ ทั้ง 3 ชีวิตอยู่ร่วมกันด้วยดี จนกระทั่งวันหนึ่ง สมจิตรตื่นขึ้นมาเห็นซากสัตว์ชิ้นเล็กๆ อยู่ใกล้ซอกตู้ สมจิตรเดาไม่ออกว่าเป็นสัตว์อะไร เขารู้คำตอบในคืนถัดมาเมื่อตื่นกลางดึก เห็นลูกแมวขย้ำศพหนู โดยมีตัวแม่เฝ้าดูอยู่ใกล้ๆ แม่แมวคงเบื่อให้นมลูก จึงไปล่าหนูมาเป็นอาหารของแมวน้อยแทน
 
                ตอนที่เขาตื่นมาเห็นนั้น ลูกแมวแทะหัวหนูจนเหวอะถึงกระโหลกแล้ว เขากลัวว่าขืนปล่อยไป มันคงชำแหละร่างหนูและฉีกออกเป็นชิ้นๆ อะไรจะเกิดขึ้นถ้าซากหนูถูกปล่อยทิ้งกระจายตามซอกตู้ นึกถึงกลิ่นเหม็นที่จะต้องตลบอบอวลในอีกไม่กี่วันข้างหน้าแล้ว เขาจึงตัดสินใจแย่งหนูออกจากคมเขี้ยวของลูกแมว
 
                แต่ไม่ง่ายอย่างที่คิด ลูกแมวกัดขย้ำหนูแน่น ไม่ยอมปล่อย ขนาดสมจิตรเอาด้ามไม้กวาดมาช่วยงัดแงะ ก็ไม่ได้ผล แถมเจ้าแมวน้อยกลับบันดาลโทสะ ส่งเสียงขู่โดยไม่ยอมคลายคมเขี้ยว อากัปกิริยาตรงข้ามกับตอนดูดนมแม่หรือเล่นกับสมจิตร ราวกับว่าพอได้กลิ่นเลือด สัญชาติญาณป่านักล่าเนื้อก็ฟื้นกลับมา
 
                สมจิตรยิ่งแย่งยิ่งงัด ลูกแมวก็ยิ่งขย้ำและส่งเสียงคำรามดังขึ้นราวกับจะบอกว่า “หนูของข้าๆๆ”
               
             ยิ่งลูกแมวขัดขืนสมจิตรก็ยิ่งฉุนเฉียว นึกถึงเศษซากที่กระจัดกระจายและกลิ่นตลบอบอวลของซากหนูที่เน่าเหม็นแล้ว ความรู้สึกว่า “บ้านของกูๆ” ก็ผุดทะลวงขึ้นมาในใจเต็มที่ แล้วเขาก็เตรียมเอาไม้ฟาดกระหน่ำเจ้าแมวน้อยให้ยอมแพ้ แต่ก่อนที่เรื่องจะบานปลาย สมจิตรก็ได้คิด “จะทำบาปหรือนี่” พอตั้งสติได้เขาก็เปลี่ยนความคิด ความรู้สึกใหม่มาแทนที่ “แมวเอ๋ย ปล่อยหนูเถอะนะ อย่าทำให้บ้านเลอะเทอะเลย เราจะได้อยู่ด้วยกันอย่างสบาย” เขาพูดกับลูกแมวในใจ แล้วท่าทีเขาก็อ่อนลง
 
             ทีนี้ลูกแมวดูเหมือนจะฟังเขา มันคลายอาการดึงดัน แล้วสมจิตรก็ชิงหนูออกจากปากลูกแมวได้ และนำไปทิ้งในที่สุด สงครามย่อยๆ เกือบจะเกิดขึ้น เพราะฝ่ายหนึ่งยึดติดว่า “หนูของกู” ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งก็หมายมั่นว่า “บ้านของกู”
 
            ใช่หรือไม่ว่า เมื่อใดก็ตามที่ความยึดติดถือมั่นว่า “กู” หรือ “ของกู” บังเกิดกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือทั้งสองฝ่าย ความเป็นปฏิปักษ์ก็เกิดขึ้นทันที และง่ายที่จะลุกลามไปสู่การวิวาทและความรุนแรง
 
            เวลาถูกเพื่อนตักเตือน ถ้าเราเกิดความรู้สึกขึ้นมาทันทีว่า “เขาว่ากู” สิ่งที่ตามาคือความไม่พอใจเพื่อนคนนั้นแล้วก็เลย ปัดคำเตือนนั้นทิ้งไป
                          
                 แต่ถ้าเราเลือกที่จะตอบสนองไปอีกแบบหนึ่ง เช่นถามขึ้นมาในใจว่า “ที่เขาพูดนั้นจริงไหม?” นอกจากความโกรธจะไม่เกิดขึ้นแล้ว ยังได้ประโยชน์จากคำเตือนของเขา เพราะหากจริงตามที่เขาพูด ก็จะได้ไปปรับปรุงแก้ไขตนเอง
 
                ท่านอาจารย์พุทธทาสพูดย้ำเสมอว่า “ตัวกู” เกิดขึ้นเมื่อไหร่ ก็ทุกข์เมื่อนั้น เพราะเมื่อมี “ตัวกู” ก็ต้องมี “ของกู” ซึ่งทำให้เกิดการยึดมั่นหวงแหน และกระทบกระทั่งกับคนที่เข้ามาขัดขวาง คุกคาม หรือไม่เอื้อเฟื้อสิ่งที่เราถือว่าเป็น “ตัวกู” “ของกู”
 
                อ้าว ถ้าไม่คิดว่า นี่เป็นงานของฉัน ฉันจะทุ่มเททำงานได้อย่างไร ถ้าไม่คิดว่านี่เป็นบ้านของฉัน ฉันจะดูแลบ้านไปทำไม คุณคงสงสัยอยู่ในใจ
 
                คนเราไม่จำเป็นต้องทำอะไร เพียงเพราะยึดถือว่าสิ่งนั้นเป็นของตัวเอง แต่อาจทำด้วยสาเหตุหรือแรงจูงใจอย่างอื่นก็ได้ เช่น บ้านหลังนี้ช่วยคุ้มแดดคุ้มฝนให้ฉันอยู่ได้อย่างผาสุก ฉันจึงควรดูแลรักษาเขาให้แข็งแรง รถคันนี้รับใช้ฉันอย่างดี ฉันจึงควรหมั่นตรวจดูน้ำมันเครื่องให้เขา ในทำนองเดียวกัน เราสามารถทุ่มเทให้กับงานอย่างเต็มที่ ไม่ใช่เพราะถือว่าเป็นงานของฉัน แต่เพราะเห็นว่างานนี้มีประโยชน์ต่อผู้อื่นด้วย ไม่ใช่แค่เป็นประโยชน์ต่อฉันเท่านั้น แรงจูงใจอย่างนี้เรียกว่า “เมตตา” คือความปรารถนาดีต่อผู้อื่น
 
                การมีเมตตาเป็นแรงจูงใจในการทำงาน ช่วยให้เราทำงานได้อย่างมีความสุข เพราะเมตตาทำให้จิตอ่อนโยน ไม่แข็งกร้าวและตึงเครียด อีกทั้งยังช่วยลดแรงเสียดทานกับคนอื่นได้มาก
 
                สงครามในที่ทำงานหรือที่บ้าน
                มักเกิดขึ้นเพราะ “อัตตา”
                หรือความยึดมั่นใน “ตัวกู” “ของกู”
                ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเปลี่ยนจาก “อัตตา”
                มาเป็น “เมตตา” เมื่อไร ความสงบสุขจะเกิดขึ้น
                เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับสมจิตรและแมวน้อย
 
 
 
 
 
 
 
วารสารหยดน้ำ
กรกฎาคม - สิงหาคม 52

 




วารสารหยดน้ำ

บุคคลสำคัญ article
ตลาดน้ำคลองลัดมะยม article
มองด้านบวก
ก๋วยเตี๋ยวแคระ “เจ๊โหนก”
การสืบสวนสอบสวนของตำรวจไทย (มะเขือเทศ)
ซื่อสัตย์ จริงใจ รับใช้ชาวประชา
‘เพลินวาน’ย้อนเวลา หาความสุข
คลายร้อนด้วยอาหาร
จากใจกวี..
ออกกำลังกายสบายๆ สไตล์...เบาหวาน
เจ้าสัวทันควัน บำรุงขวัญตำรวจเพื่อประชาชน
ความสุขง่ายๆ หาได้รอบกาย
“มหกรรมหุ่นโคมไฟสวนสยาม”
อิ่มอร่อยสุดๆ ที่ ‘แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา’
เรื่องรับผิดในฐานะส่วนตัว
ทิวลิปนนท์...มนต์เสน่ห์เชื้อชาติฮอลแลนด์ สัญชาติไทย
เสกผิวให้สวยด้วย "เลเซอร์"
มองแง่บวก
10 ที่ท่องเที่ยวในฤดูหนาว
รู้ปัญหา ตั้งใจทำงานเพื่อส่วนรวม
จริงใจทำงาน พัฒนาท้องถิ่น
การวางแผนภาษีมรดก
แนะ 7 สัญญาณที่ผู้ขับขี่ควรรู้ article
หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
12 ปี แห่งการใกล้ชิดประชาชน
‘กาหลง’
บันทึกธรรมจาก หลวงปู่ท่อน ญาณธโร
โรคหัวใจ
ประหยัดภาษี ในธุรกิจแมนชั่นและอพาร์ทเมนต์ได้อย่างไร
ปัญหาประชาชนต้องได้รับการแก้ไข
โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย
นาฏยศาลา หุ่นละครเล็ก (โจหลุยส์)
กำแพงสีเขียว
การวางแผนภาษี กิจการค้าขายอสังหาริมทรัพย์
มารู้จัก ศูนย์ กศน.เขตจอมทอง กันดีกว่า...
บริการประชาชนคือเป้าหมายการทำงาน
มารู้จัก ศูนย์ กศน.เขตจอมทอง กันดีกว่า
หยดน้ำใจ สู่แดนใต้
ยาอมตราตะขาบ 5 ตัว ตำนานยาสมุนไพร 2 สัญชาติ
อิ่มบุญ อิ่มใจ สงกรานต์ไทย-รามัญที่วัดบางกระดี่
ภาษีที่ดิน-มรดกไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
ความสุขคือ การเป็นผู้ให้
ว่าว สีสันแห่งคิมหันตฤดู
ข้าวแกงบ้านสวน จุดนัดยามเดินทาง
ล่องเรือชมเกาะ ดูลิงแสม ตลาดน้ำวัดหัวกระบือ
รักประชาชน รักษ์สิ่งแวดล้อม
พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นเกริกยุ้นพันธ์
ตรุษจีน เทศกาลแห่งความมีโชค
นายตำรวจเปี่ยมคุณธรรม
ทำทุกอย่างเพื่อความสุขของประชาชน article