รู้ปัญหา ตั้งใจทำงานเพื่อส่วนรวม
บุญเลิศ ฟักสวัสดิ์
นายกเทศมนตรีเมืองลัดหลวง
|
“ฟักสวัสดิ์” เป็นตระกูลเล็กๆ ในตำบลบางจาก อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ถือเป็นต้นกำเนิดของลูกผู้ชายที่ชื่อ บุญเลิศ ฟักสวัสดิ์ ซึ่งเกิดเมื่อ 12 มิถุนายน 2497 และเมื่อได้ก้าวมาทำหน้าที่ในฐานะนายกเทศมนตรีเมืองลัดหลวงในวันนี้ แม้ว่าจะไม่ใช่ตระกูลโด่งดังหรือมีฐานะโดดเด่นเช่นตระกูลใหญ่ๆ ทั่วไป แต่ก็มีเชื้อสายการเมืองท้องถิ่นอยู่บ้าง ซึ่งอาจจะไม่มากมาย แต่ทว่าก็ตกทอดมาสู่ชายผู้นี้ โดยไม่อาจมีใครล่วงรู้ได้เลยว่าในอนาคตชายผู้นี้จะเป็นผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นกับตำบลบางพึ่ง ตำบลบางครุ และตำบลบางจาก
ตำแหน่งทางการเมือง
“เริ่มต้นจากการเป็นผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.บางจาก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ และหลังจากนั้นยังเป็นสมาชิกสภาเทศบาล เทศบาลตำบลลัดหลวง เมื่อปี 2537-2545 จากนั้นจึงได้รับตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีเมืองลัดหลวง จนถึงปี 2550 และจนมาถึงตำแหน่งในปัจจุบันคือ นายกเทศมนตรีเมืองลัดหลวงโดยหน้าที่หลักแล้วต้องดูแลสารทุกข์สุกดิบของประชาชนในเขตเทศบาลให่น่าอยู่ สวยงาม และทันสมัย ดูแลรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความปลอดภัยในเขตเทศบาลให้เกิดความสงบสุข ทำนุบำรุงศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาและประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นให้ยั่งยืน พัฒนาด้านการให้ข้อมูลข่าวสารอย่างรวดเร็วและทั่วถึง รวมถึงบริหารราชการตามนโยบายของรัฐ สภาเทศบาลและส่งเสริมการเมืองการปกครองในระดับชุมชน และต่อจากนี้ผมได้วางอนาคตทางการเมืองไว้ว่าต้องการลงการเมืองในภาคท้องถิ่นต่อเนื่องเพราะสามารถช่วยเหลือและใกล้ชิดกับประชาชนได้มากกว่า”
|
ผลงานที่ผ่านมา
“เนื่องจากเป็นความตั้งใจที่จะทำงานในเขตเทศบาลซึ่งผมมีความต้องการช่วยเหลือประชาชนมาตั้งแต่สมัยที่เป็นผู้ใหญ่บ้าน ด้วยการเล็งเห็นความสำคัญของโครงการพื้นฐานในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง น้ำไหล ไฟสว่าง ทางสะดวก นี่คือความต้องการของชาวบ้าน ถ้าเราแก้ปัญหาให้เขาได้ทั้งหมดมันก็เป็นเรื่องที่ดี เมื่อได้มีโอกาสมาอยู่ในตำแหน่งนี้ก็สามารถช่วยเหลือประชาชนได้มากขึ้น อย่างเช่นว่า เมื่อเป็นเทศบาลแล้วปีที่แล้วเราตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กไปแล้ว 4 ศูนย์ และในปีงบประมาณ 2553 เราจะขอจัดตั้งโรงเรียนอนุบาลเพิ่มเติม ผมมีนโยบายในเรื่องการศึกษา คือหากมีปัญหาเรื่องใดที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาเรายินดีเข้าไปช่วยเหลือเป็นอันดับแรก
ตั้งแต่รับตำแหน่งมาเป็นเวลา 1 ปีเศษก็ได้ทำโครงการโรงเรียนก่อนปฐมวัย และได้ส่งมอบภารกิจด้านการจัดการศึกษาของโรงเรียนบางครุ หรือโรงเรียนอุปการราษฎร์ สำนักเขตพื้นที่การศึกษาสมุทรปราการ เขต1 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกระทรวงศึกษา ให้แก่นายกเทศมนตรีเมืองลัดหลวง เป็นผู้แทนสำนักงานเทศบาลเมืองลัดหลวง ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงเรียนในเขตเทศบาลจำนวน 9 โรง ซึ่งตอนนี้ได้ทำการปรับปรุงจากโรงเรียนไม้ชั้นเดียวที่มีจำนวนห้องทั้งหมด 5 ห้อง คือรวมห้องสมุดและห้องครูใหญ่แล้ว มีจำนวนนักเรียน 9 ชั้นเรียน แต่มีห้องเรียนเพียง 3 ห้อง เมื่อโอนย้ายเข้ามาอยู่ในเทศบาลแล้วก็ทำเรื่องของบประมาณจำนวน 27 ล้าน เพื่อทำเป็นอาคาร 4 ชั้น 15 ห้องเรียน และเมื่อโครงการนี้สำเร็จแล้วก็จะสร้างอีก 1 อาคารเป็นอาคารเฉลิมพระเกียรติประมาณ 18 ห้องเรียน เพื่อรองรับชั้นอนุบาล จนถึง ป.1-ป.6
เรื่องต่อมาคือโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุเคยคิดไว้ว่าผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมื่อตอนที่เป็นรองนายกฯ นั้นเคยพูดไว้ว่าอยากให้ผู้สูงอายุได้รับเบี้ยยังชีพทุกคน แต่ว่ายังขาดกฎระเบียบมารองรับ ซึ่งผู้สูงอายุในเทศบาลนี้มีจำนวนถึง 6,000-7,000 คน แต่เทศบาลเราสามารถให้ได้เพียง 2,000 คน เท่านั้น แต่ปัจจุบันผนวกกับภาครัฐได้ประกาศว่าผู้สูงวัยที่มีอายุ 60 ปีนั้นจะได้รับเบี้ยยังชีพทุกคน จึงสอดคล้องกับโครงการที่เราทำไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งปัจจุบันจะเป็นงบจากเทศบาลประมาณ 3,700 ส่วนที่เหลือก็เป็นของทางภาครัฐ ทำให้เกิดความอยู่ดีกินดีของพี่น้องประชาชน”
|
|
เป้าหมายที่วางไว้
“ผมต้องการวางนโยบายเรื่องสวัสดิการฌาปนกิจสงเคราะห์ซึ่งเป็นโครงการที่อยากทำแต่ว่ายังไม่ได้ทำ ซึ่งที่ผ่านมาหลายคนอยากให้มีโครงการนี้ เนื่องจากเรามีโครงการผู้สูงอายุในหลายๆ ตำบล ตั้งมาตั้งแต่สมัยสมเด็จย่าฯ ผู้สูงอายุก็อยากให้มีโครงการต่อเนื่อง ล่าสุดผู้สูงอายุก็ต้องการให้มีโครงการฌาปนกิจสงเคราะห์ ซึ่งประชาชนในเขตเทศบาลนี้ก็ยังมีเป็นคนที่ยากจนอยู่ แต่เมื่อมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องเงินทอง เราก็ต้องวางแผนงานให้ดี ชาวบ้านเขาก็บอกว่าอยากให้มีโครงการนี้เพราะเมื่อตายไปแล้วจะได้มีเงินซื้อโลงศพ ทำพิธีทางศาสนา อะไรอย่างนี้ คาดว่าก่อนหมดวาระจะได้ทำโครงการนี้ให้เสร็จลุล่วง ตอนนี้ก็อยู่ที่รายละเอียดต่างๆ ทำการอุดรอยรั่วเรื่องของการเงิน”
ผลงานที่ผ่านมาสามารถเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความตั้งใจในการทำงานของนายกเทศมนตรีเมืองลัดหลวงได้เป็นอย่างนี้ ทั้งนี้เพราะการเล็งเห็นถึงความอยู่ดีมีสุขของพี่น้องประชาชน อันเกิดจากความเพียรพยายามการทำงานตลอดจนผู้ที่มีส่วนร่วมในการทำงานทุกคน ซึ่งถือเป็นความภูมิใจอันสูงสุด
วารสารหยดน้ำ
ฉบับเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม 2552
|